23-04-2018

คนอเมริกันไม่ต้องการให้รัฐเข้ามาเซ็นเซอร์ข่าวปลอม เพราะอาจเป็นการจำกัดเสรีภาพการรับข้อมูลข่าวสาร

บทความโดย
  • แม้ว่าปัญหาข่าวปลอมเป็นประเด็นใหญ่ในโลกสังคมออนไลน์แต่สำหรับคนอเมริกันแล้วมองว่าเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าการเข้ามาดูแลข่าวปลอมโดยรัฐบาล
  • แต่ผู้ที่ควรเข้ามาจัดการดูแลปัญหาข่าวปลอมคือบริษัทเจ้าของแพลทฟอร์มทั้งหลายมากกว่ารัฐบาล
  • คนรุ่นใหม่ช่วงอายุ 18-29 ปีมองว่าเรื่องเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารมีความสำคัญมากกว่าการคัดกรองข่าวสารโดยรัฐบาล

ปัญหาเรื่องข่าวปลอมที่เกิดขึ้นกับกรณีของ Facebook ได้เป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงอย่างมากในสังคมออนไลน์ทั่วโลก โดยเฉพาะสังคมอเมริกันที่เป็นสังคมที่ให้คุณค่าต่อเรื่องเสรีภาพเป็นอันดับต้นๆ

ทางด้าน Pew Research Center ซึ่งเป็นองค์กรThink tank ที่ไม่หวังผลกำไรซึ่งตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี ได้ออกรายงาน “Americans Favor  Protecting Information Freedom Over Government steps to Restrict False News  Online” ความยาว 12 หน้า โดยทำการสำรวจโพล์ว่าคนอเมริกันคิดอย่างไรต่อกรณีข่าวปลอม และการกำกับดูแลโดยรัฐบาลอเมริกันต่อข่าวปลอมบนโลกออนไลน์ โดยเก็บข้อมูลตั้งแต่ 26 ก.พ. –  11 มี.ค.2018 กลุ่มตัวอย่างจำนวน 4,734  ราย

โดยคำถามที่สำคัญคือถ้าให้เลือกระหว่าง รัฐบาลอเมริกันเข้ามาตรวจสอบข่าวปลอมซึ่งทำให้เกิดการจำกัดการรับข้อมูลข่าวสารของคนอเมริกัน และ ปกป้องเสรีภาพการรับข้อมูลข่าวสารแม้ว่าจะมีข่าวปลอมปะปนอยู่ในนั้น ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ คนอเมริกันกว่า 58% ต้องการปกป้องเสรีภาพในการรับข้อมูลข่าวสารของตนเองแม่้จะมีข่าวปลอมปะปนอยู่ก็ตาม

ขณะที่คำถามลักษณะเดียวกันแต่เปลี่ยนจากรัฐบาลเป็นบริษัทเทคโนโลยี ผลลัพธ์กลับเป็นว่าต้องการให้บริษัทเทคโนโลยีมาเป็นผู้เข้ามาตรวจสอบมากกว่าอยู่ที่ 56%

ในส่วนของเรื่องอายุพบว่าช่วงวัยรุ่นหรือช่วงอายุระหว่าง 18-29 ปีเน้นเรื่องเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารมากกว่าเรื่องการให้รัฐบาลเข้ามาตรวจสอบข่าวปลอมสูงถึง 65% และช่วงอายุต่างๆก็เห็นไปในทำนองเดียวกัน อาทิช่วง30-49 ปี อยู่ที่ 62% ช่วงอายุ 50-64 ปีอยู่ที่ 53%

Source: Media Post