17-01-2019

นักลงทุนกังวลใจกับการหย่าของเจฟ เบโซส ผู้ก่อตั้งAmazon กับอนาคตต่อจากนี้

บทความโดย

อนาคตของ Amazon จะเป็นเช่นไรหลังเจฟฟ์ เบโซส หย่ากับภรรยา

เป็นประเด็นที่กำลังสร้างความกังวลให้เหล่านักลงทุน และตั้งคำถามว่าจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของ Amazon ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าสูงอันดับต้น ๆ ของโลก รวมถึงจะส่งผลกระทบกับ เบโซส ที่เป็นผู้ที่ถูกจัดอันดับให้เป็นอภิมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกในเวลานี้มากน้อยแค่ไหน

ในปัจจุบัน เจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้ง Amazon ได้ชื่อว่าเป็นอภิมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก มีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า 1.36 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เขาได้โพสต์ลง Twitter เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า เขาและภรรยาคือ นางแม็คเคนซี เบโซส คู่ชีวิตที่แต่งงานกันมานาน 25 ปี ได้ตกลงหย่าขาดกันเรียบร้อย ซึ่งปรากฏว่าหลังจากประกาศแล้ว ราคาหุ้นของ Amazon ได้ร่วงลงมาราว 0.5%

การแยกทางกันระหว่างสองสามีภรรยาในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา เพราะมันทำให้เกิดคำถามตามมาว่า พวกเขาจะแบ่งทรัพย์สินกันอย่างไร รวมถึงการถือครองหุ้นส่วนใน Amazon ราว 16% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 8.11 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตามกฎหมายของกรุงวอชิงตันแล้ว สินสมรสจะต้องถูกแบ่งให้เท่าเทียมกันทั้งสองฝ่ายหลังจากหย่าร้าง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์และนักการเงินจำนวนมากก็กล่าวว่า การหย่าร้างครั้งนี้ก็ไม่ได้จะเปลี่ยนแปลงสถานะการเป็นเจ้าของบริษัทของ เจฟฟ์ เบโซส แต่อย่างใด

แต่ก็มีเสียงอีกฝั่งที่เห็นว่า สถานการณ์หย่าร้างทำให้พวกเขาคิดหนัก เช่น นักวิเคราะห์และนักลงทุนระยะสั้นชื่อดังอย่าง Doug Kass ก็กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าเขาขายหุ้นใน Amazon ทันทีหลังจากมีข่าวหย่าร้างออกมา หลังจากที่เขาเคยออกมาบอกว่า Amazon เป็นหนึ่งในลิสต์หุ้นที่น่าลงทุนที่สุด จากเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมานี้

ส่วนล่าสุด ทั้งสองสามีภรรยาต่างก็มีบ้านพักอยู่ในต่างประเทศหลายแห่ง ดังนั้นเป็นไปได้ว่าการแบ่งสินสมรส โดยเฉพาะในส่วนของอสังหาริมทรัพย์คงจะไม่สามารถแบ่งให้เท่าเทียมกันได้

ทางด้านผู้บริหารของสำนักงานกฎหมายในนิวยอร์คอย่าง Bernard Clair ก็กล่าวว่า นางแม็คเคนซี เบโซส เป็นคู่ชีวิตที่มีส่วนอย่างมากในความสำเร็จทางด้านธุรกิจของ เจฟฟ์ เบโซส เนื่องจากเธอมีส่วนช่วยเหลือให้เขาสามารถทุ่มเทสมาธิและการตัดสินใจทางธุรกิจที่สำคัญได้ ในขณะที่เธอก็รับหน้าที่ดูแลลูกมาอย่างดี

ผลที่ตามมาหลังการหย่าของเบโซส

อย่างไรก็ตาม การโยกย้ายถ่ายหุ้นของเบโซส ก็กลายเป็นประเด็นสำคัญในตอนนี้ เนื่องจากเบโซสถือหุ้นใหญ่ในหลายกิจการของสหรัฐอเมริกา ซึ่งการโยกย้ายสินทรัพย์ ก็จะส่งผลต่อภาพรวมในตลาดหุ้นแน่ ในขณะที่นางแม็คเคนซี ก็อาจจะได้หุ้นของ Amazon มากกว่า 5%

มีการวิเคราะห์จาก Peter Henning ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัย Wayne ที่ชี้ว่า การดำเนินธุรกิจของ Amazon แตกต่างจากยักษ์ใหญ่ด้วยกันอย่าง Facebook และ Google เนื่องจากไม่ได้ให้อำนาจแก่ผู้ก่อตั้งบริษัทในการออกเสียงต่อผู้ถือหุ้นมากนัก ดังนั้นถ้าแม็คเคนซีได้รับหุ้นใหญ่เป็นส่วนแบ่งในสินสมรสครั้งนี้ เท่ากับว่าเธอจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่มีเสียงมากในบริษัทไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะเป็นอำนาจในการควบคุม หรือบริหารจัดการต่าง ๆ ซึ่งผู้บริหารของกองทุนการเงินบางคนก็มีความกังวงว่า การหย่าของพวกเขาจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนและผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะในระยะสั้น

อย่าไงรก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนก็ยังมองว่า เจฟฟ์ เบโซส ก็ยังคงเป็นผู้มีอิทธิพลสูงสุดสำหรับการประชุมของผู้ถือหุ้นของ Amazon อยู่ดี

Source: Reuters