ธนาคารกลางจีนปล่อยค่าเงินหยวนอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 11 ปี 7หยวนต่อดอลลาร์กับผลกระทบภาคธุรกิจจริง
รับข่าวกันแต่เช้าด้วยธนาคารกลางจีนประกาศลดค่าเงินหยวนให้อ่อนค่ามากกว่า6.9 หยวนต่อดอลลาร์ โดยเงินหยวนทะลุ 7.o256 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการลดค่าเงินหยวนให้อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 11 ปีตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2008
ส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่าเป็นมาตรการตอบโต้ทางสหรัฐที่ประกาศขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีน 10% มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การอ่อนค่าของเงินหยวนในครั้งนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มประเทศอาเซียนที่เป็นฐานส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐเพราะราคาสินค้าของจีนจะถูกลงกว่าสินค้าที่ผลิตในอาเซียน และอาจส่งผลให้เงินทุนในอาเซียนไหลกลับไปยังสหรัฐฯ
ทั้งนี้ในภาวะที่เงินหยวนอ่อนค่าลงและรวมไปถึงค่าเงินวอนของเกาหลีใต้อาจทำให้การโยกย้ายเงินเข้าสกุลเงินปลอดภัยที่ยังสร้างผลตอบแทนได้เป้าหมายคือ เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นกว่า 1% เป็น 105 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
ประเด็นความอ่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักสืบเนื่องจากความตึงเครียดของสงครามการค้าจีน-สหรัฐกดดันให้ค่าเงินในภูมิภาคมีความผันผวนอย่างมาก ตลอดทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ กลายเป็นประเด็นที่กดดันให้จีนเร่งปล่อยค่าเงินหยวนให้อ่อนค่าลงเพื่อยังรักษาความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบในการแข่งขันของสินค้าจีนกับตลาดต่างประเทศ
แต่นั่นหมายถึงความอ่อนไหวในค่าเงินสกุลต่างๆในอาเซียนย่อมได้รับผลกระทบตามมาทั้งในเรื่องต้นทุนราคาสินค้าที่แพงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเงินหยวนของจีน โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการส่งออกสูงๆอาทิ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์
จากสถานการณ์ค่าเงินที่ผันผวนมากในเวลานี้อาจกดดันให้ภาคส่งออกชะลอตัวมากขึ้นไปอีก ความคาดหวังในการพยุงเศรษฐกิจในประเทศต่างๆอาจจำเป็นต้องพึ่งพาการบริโภคและกำลังซื้อภายในประเทศเป็นสำคัญเพื่อชดเชยการส่งออกที่หายไปในเวลาอันสั้นนี้ และยิ่งไปกว่านั้นถ้าสถานการณ์ค่าเงินยังมีแนวโน้มผันผวนต่อเนื่อง อาจทำให้ Supply chain ของกลุ่มอาเซียน จีน เกาหลีใต้ อาจหยุดชะงักย่อมส่งผลต่อภาวะขาดทุนของบริษัทต่างๆ ล่าสุดบริษัทในเอเชียกำไรสุทธิลดลง 21% ลดลงมาสามไตรมาสติดต่อกัน ในขณะที่บริษัทจีนเริ่มประสบภาวะขาดทุนสองไตรมาส
ขณะที่บริษัทญี่ปุ่นเริ่มบันทึกผลประกอบการที่ลดลง 7.3% โดยเป็นการลดลงสามไตรมาสติดต่อกันอาทิบริษัท นิสสันมอเตอร์ บริษัท NIDEC ผู้ผลิตมอเตอร์รายสำคัญ บริษัทผลิตหุ่นยนต์ชั้นนำ FANUC แม้แต่โตโยต้าเริ่มมีการปรับตัวเลขคาดการณ์รายได้ลง
ผลของสงครามการค้ายังส่งผลกระทบไปยังบริษัทผลิตชิพในเอเชียอาทิ ไต้หวันและเกาหลีใต้ โดย Samsung Electronic กำไรสุทธิลดลงครึ่งหนึ่งเนื่องจากราคาชิพและหน่วยความจำที่ใช้ในเซิฟเวอร์และในอุปกรณ์อื่นๆลดลง บริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing ผู้ผลิตชิปป้อนแอปเปิ้ลได้รับผลกระทบกำไรสุทธิลดลง 8% อยู่ที่ 66.7 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน (หรือ 2.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) นับเป็นการปรับลดลงสองไตรมาสติดต่อกัน
