27-11-2020

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส คาดยอดส่งสินค้าระหว่างประเทศช่วงพีคซีซั่นสูงเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 50% ทั่วโลก

บทความโดย
  • กระแสโลกาภิวัฒน์และการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล ขับเคลื่อนการขยายตัวของการช้อปปิ้งออนไลน์และธุรกิจขนส่งทั่วโลกให้สูงขึ้น โดยโควิด-19 เป็นตัวเร่งการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ
  • ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ลงทุนกว่า 750 ล้านยูโร สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องบินขนส่งลำใหม่ และเปิดเส้นทางบินใหม่ในเอเชียแปซิฟิก เพื่อยกระดับความสามารถในการดำเนินงานและเสริมประสิทธิภาพการขนส่ง
  • ผู้ค้าออนไลน์จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซทั่วโลก และสามารถใช้ชิปปิ้งแพลตฟอร์ม iExpressByDHL เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งสินค้าระหว่างประเทศ

ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส คาดการณ์ว่าในช่วงพีคซีซั่นปลายปี 2563 ยอดสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ ปริมาณการขนส่งสินค้าและธุรกรรมอีคอมเมิร์ซทั่วโลกจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยคาดว่าจะมียอดขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้นราว 40% ขณะที่ประเทศไทยจะมียอดขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น 30% ในช่วงพีคซีซั่นปลายปีนี้

ปัจจัยการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งการเข้าสู่ดิจิทัล ยังส่งผลให้ยอดช้อปปิ้งออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นและแนวโน้มนี้จะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงช่วงเทศกาลช้อปปิ้งที่กำลังใกล้เข้ามา เช่น Black Friday, Cyber Monday, 12.12, เทศกาลคริสต์มาส จนถึงตรุษจีนปีหน้า

คุณเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทยและหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ยอดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเรากำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเทศกาลปลายปีซึ่งจะมีความต้องการใช้บริการขนส่งสูงขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคต้องการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลมากขึ้นหลังจากที่ต้องเก็บตัวอยู่บ้านมานานในช่วงแพร่ระบาด ประสบการณ์การช้อปปิ้งของผู้บริโภคในปีนี้จึงเปลี่ยนไปจากเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบทั้งธุรกิจค้าปลีก B2C และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ B2B ที่ต้องปรับตัวสู่โลกออนไลน์อย่างเต็มตัว”

ยอดสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ระหว่างประเทศทั่วโลกเพิ่มขึ้น 21% ในช่วงเดือนมกราคมถึงมิถุนายนปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว[1] โดย 85% ของผู้คนทั่วโลกใช้เวลาช้อปปิ้งออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ 45% ของคนรุ่นมิลเลนเนียล (Millennial) ยังคงช้อปออนไลน์อย่างต่อเนื่องถึงแม้จะเป็นช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19[2]

จากการเติบโตดังกล่าวทำให้ทาง ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสได้เสริมความแข็งแกร่งในการให้บริการ โดยเพิ่มจำนวนเครื่องบิน เส้นทางบิน การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงโซลูชั่นนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัย

  • เครื่องบินขนส่งสินค้าโบอิ้ง 777F แบบ Wide Body จำนวน 6 ลำ – เครื่องบินจำนวน 4 ลำได้นำมาใช้งานในปีนี้แล้ว และเครื่องบินอีก 2 ลำจะถูกนำมาใช้ในเดือนหน้า โดยเครื่องบินทั้ง 6 ลำนี้จะช่วยให้ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสสามารถเพิ่มเที่ยวบินระหว่างทวีปได้มากขึ้น 3,000 เที่ยวต่อปี
  • การลงทุนมูลค่ากว่า 690 ล้านยูโร ระหว่างปี 2020 – 2022 เพื่อสร้างและขยายศูนย์บริการ ฮับและเกต์เวย์ในการดำเนินงานในตลาดที่สำคัญ เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเกาหลีใต้
  • การลงทุนมูลค่ากว่า 60 ล้านยูโร เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเครือข่ายทางอากาศของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งในเส้นทางบินตรง เส้นทางบินใหม่ (เช่น เวียงจันทน์, ย่างกุ้ง) และเส้นทางที่บินบ่อย (เช่น โอเชียเนีย)
  • iExpressByDHL แพลตฟอร์มการขนส่งด่วนระหว่างประเทศที่พัฒนาโดย ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย เพื่อลดความซับซ้อนของกระบวนการจัดส่งสินค้าสำหรับผู้ค้าออนไลน์ในประเทศไทยให้สามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าในกว่า 220 ประเทศทั่วโลก

จากการลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของ เครื่องบินขนส่งลำใหม่ โครงสร้างพื้นฐานที่ขยายเพิ่มและเส้นทางบินใหม่ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะช่วยให้ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสสามารถรับมือกับปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก พร้อมตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของบริการขนส่งด่วนภายในเวลาที่กำหนด (Time Definite)

ในขณะที่ชิปปิ้งแพลตฟอร์มเพื่อการขนส่งระหว่างประเทศอย่าง iExpressByDHL นั้นจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ขายออนไลน์หรือธุรกิจอีคอมเมิร์ซสามารถเช็คราคาค่าขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและบุ๊คเวลาขนส่งได้อย่างสะดวกผ่านคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ ทำให้ประหยัดเวลาจัดการเรื่องลอจิสติกส์และได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซทั่วโลกได้อย่างเต็มที่


[1] Global-e, Digitalcommerce360.com

[2] Media Insight report 2020, Merkle