18-07-2019

ราคาเพชรพุ่ง! เหมืองเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลกเตรียมปิดลงปีหน้า

บทความโดย
Argyle Muse and Argyle Alpha ภาพโดย Rio Tinto

เหมืองเพชร Argyle ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในประเทศออสเตรเลียเตรียมปิดตัวลงในปี 2020 โดยเป็นเหมืองที่ดำเนินการโดยบริษัท Rio-Tinto บริษัทเหมืองแร่ชั้นนำของออสเตรเลีย เหมืองเพชรแห่งนี้เปิดดำเนินการมากว่า 4 ทศวรรษ เป็นเหมืองที่ผลิตเพชรน้ำงามสีชมพูและสีแดงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่ป้อนเข้าสู่ตลาดหลัก 2 แห่งคือ RBC Capital Markets และ Panmure Gordon

มีการคาดการณ์มาหลายปีแล้วว่าเหมือง Argle จะปิดตัวลงตั้งแต่ปี 2011 มาจากปริมาณแร่ที่ขุดขึ้นมาไม่คุ้มค่ากับต้นทุนและผลกำไรที่ลดลงจากปริมาณการผลิตที่ลดลงตามลำดับ

             Emerald Cut Pink Diamond

ทั้งนี้เหมือง Argyle เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแหล่งเพชรสีชมพู โดยผลผลิตเพชรสีชมพูเป็น 90% ของตลาดโลก โดยเป็นเพชรกลุ่มที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ราคาที่เคยประมูลผ่านสถาบันSotheby ได้ประมูล“ Pink Star” 59.6 กะรัต ไปในราคา 71 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนเมษายน 2017 ซึ่งเป็นราคาประมูลอัญมณีที่สูงเป็นประวัติการณ์ ปริมาณผลิตเพชรสีชมพูเทียบกับกำลังการผลิตทั้งหมดคิดเป็นเพียง 0.01 % เท่านั้นนับว่าหายากมาก

ผลผลิตของเหมือง Argyle นั้นมากทั้งปริมาณและเป็นศูนย์กลางการผลิตเพชรในระดับโลก ทั้งนี้การผลิตเพชรที่ผ่านมาจะผลิตเพชรน้ำตาลที่มีราคาไม่ได้สูงมากนัก  โดยราคาขายออกโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 15 – 25 เหรียญสหรัฐต่อกะรัต นับว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับราคาเพชรของ De Beer ที่ขายเฉลี่ยอยู่ที่  171 เหรียญสหรัฐต่อกะรัต

ปริมาณการผลิตเพชรทั้งโลกอยู่ที่ 21 ล้านกะรัตต่อปี  โดยผลผลิตของเหมือง Argyle อยู่ที่ 14 ล้านกะรัตต่อปี ช่วงที่ผ่านมาราคาเพชรค่อนข้างคงที่แต่หลังจากเหมือง Argyle ปิดไปจะกระทบปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก คาดการณ์ว่าอาจจะอยู่ระหว่าง  11 -35 ล้านกะรัต แม้ว่าบางส่วนจะได้รับการชดเชยจากเหมืองเปิดใหม่ในรัสเซีย เหมือง Alrosa PJSC  แต่ผลกระทบที่หนักที่สุดคือเพชรสีชมพูและเพชรสีแดงอมม่วง ซึ่งช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเพชรสีชมพูราคาปรับขึ้นมาถึง 4 เท่า

มีการประมาณการณ์ว่าผู้ผลิตจากเหมือง Argyle มีเพชรคุณภาพดีประมาณ 150 เม็ดเท่านั้น เพื่อพร้อมสำหรับการประมูลในปีนี้ซึ่งจะเปิดให้ผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น โดยจะนำออกมาประมูลประมาณ 50-60 เม็ดเท่านั้น

Source: FinancialPost