21-08-2018

ค่าดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังทรัมพ์ให้สัมภาษณ์พร้อมกล่าวถึงเฟดขึ้้นดอกเบี้ยว่าไม่น่าตกใจ

บทความโดย
  • หลังจากประธานาธิบดีทรัมพ์ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ในประเด็นเรื่องอัตราดอกเบี้ย เรื่องธนาคารกลางสหรัฐและ สงครามการค้า ส่งผลต่อตลาดการเงินโดยเฉพาะค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทันที

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมพ์ได้ออกมาวิจารณ์ต่อธนาคารกลางสหรัฐ ในเรื่องอัตราดอกเบี้ยรวมทั้งคาดถึงการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีนในเรื่องสงครามการค้าในอาทิตย์นี้

ดัชนีดอลลาร์ (The Dollar Index) ซึ่งวัดมูลค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกับเงินสกุลหลักอื่นๆโดยค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.4% อยู่ที่ 95.483 ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.3% แตะ 1.1515 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร หลังจากก่อนหน้าอยู่ที่ 1.1543 ส่วนเงินปอนด์อยู่ที่ 1.221 ดอลลาร์ต่อปอนด์ แข็งค่าขึ้น 0.2%

เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนซึ่งแข็งค่าขึ้นแตะ 109.76 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในรอบเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมาแล้วกลับมาแข็งค่าขึ้น 0.1% อยู่ที่ 109.94 เยนต่อดอลลาร์

ความเคลื่อนไหวของค่าเงินดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง ส่วนราคาหุ้นร่วงลงเล็กน้อยและราคาพันธบัตรกลับมาเพิ่มขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมพ์ได้ให้ความเห็นกับรอยเตอร์ว่า เขา “ไม่ตื่นเต้น” กับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐที่กำลังตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

แต่อีกด้านหนึ่งประธานาธิบดีทรัมพ์ได้กล่าวถึงธนาคารกลางสหรัฐต่อข้อกล่าวหาว่า ยุโรปและจีนกำลังจัดการแทรกแซงค่าเงินของตัวเองให้อ่อนค่าลงอย่างจงใจ

โดยค่าเงินยูโรแข็งค่ามากกว่าสกุลเงินอื่นๆรวมถึงออสเตรเลียดอลลาร์และปอนด์ หลังจากที่เงินดอลลาร์ถูกเทขายออกมาทำให้ค่าเงินยูโรขึ้นไปอยู่ที่ 1.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร

ตลาดการเงินสัปดาห์นี้เริ่มมองโลกแง่ดีมากขึ้นเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่จีนและสหรัฐที่วองชิงตัน ดีซี ในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีทรัมพ์ได้กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก” ในการเจรจารอบนี้รวมถึงไม่มี “กรอบเวลา” สำหรับการยุติข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนแต่อย่างใด ซึ่งทั้งสองประเทศเตรียมปรับอัตราภาษีนำเข้าใหม่มูลค่าสินค้ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์

ขณะที่ความคาดหวังของนักลงทุนในกรณีสงครามการค้ายังอยู่ในระดับต่ำแม้ว่าจะมีความคืบหน้าเล็กน้อยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาระหว่างวอชิงตันและปักกิ่ง

ขณะที่ตลาดตราสารหนี้เอกชน ราคาพันธบัตรของบริษัทเอกชนราคาปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 1 basis point มาอยู่ที่ 2.826 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่พันธบัตรญี่ปุ่นและออสเตรเลียผลตอบแทนยังไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่  0.087 และ  2.518 ตามลำดับ

Source: FT