Huawei ประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรก 2018 เติบโต 15% เทียบกับปีที่แล้วด้วยรายได้กว่า 3.25 แสนล้านหยวน
- Huawei ประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรกทำรายได้กว่า 3.25 แสนล้านหยวน เติบโตขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน
- 4 ธุรกิจหลักของ Huawei ในรอบนี้ที่สร้างผลกำไรให้เป็นกอบเป็นกำคือ ผู้ให้บริการ(Carrier) ธุรกิจองค์กร (Enterprise) ฝั่งผู้บริโภค (Consumer) และ คลาวด์ (Cloud)
Huawei ได้ประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรก 2018 สามารถทำรายได้กว่า 3.25 แสนล้านหยวนหรือกว่า 4.77 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตเพิ่มขึ้นถึงกว่า 15% ถือว่าเติบโตต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี แต่เมื่อเทียบรายได้ที่ทำได้ครึ่งปีแรกกับปี 2017 ในช่วงเดียวกันซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 2.83 แสนล้านหยวน ขณะที่อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 14%
4 ธุรกิจหลักของ Huawei คือ ผู้ให้บริการ(Carrier) ธุรกิจองค์กร (Enterprise) ฝั่งผู้บริโภค (Consumer) และ คลาวด์ (Cloud)
โดยมือถือสมาร์ทโฟนเน้นหนักไปทั้ง 2 แบรนด์คือ Huawei และ Honor โดย Huawei ตัวธงคือ Huawei P20Series ซึ่งเพิ่มนวัตกรรมเรื่อง AI และการถ่ายภาพให้รับกับความต้องการถ่ายภาพสวยขึ้นไปเรื่อยๆของผู้บริโภค ทั้งสองแบรนด์นี้สามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดรวมกันเป็น 27% จากเดิมอยู่ที่ 21% ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว Huawei นับว่าเป็นผู้ยึดครองตลสดสมาร์ทโฟนของจีนมาตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา
ขณะที่สัปดาห์ก่อนHuawei ประกาศเพิ่มงบวิจัยและพัฒนาประจำปีที่เคยให้ไว้ที่ 1 หมื่นล้านเหรียญ ขึ้นมาเป็น 2 หมื่นล้านเหรียญ โดยตั้งเป้าว่าจะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ในระดับโลก
โดยบริษัทได้ระบุว่าเมื่อปีที่แล้ว ใช้เงินไปราว 8.97 หมื่นล้านหยวนหรือราว 1.32 หมื่นล้านเหรียญในการวิจัยและพัฒนาโดยคิดเป็นสัดส่วนราว 14.9 ของรายได้ทั้งหมด
ประเด็นเรื่องอุปกรณ์ Huawei ถูกแบนในสหรัฐอเมริกา
อีกด้านหนึ่งที่ Huawei ยังต้องเผชิญคือ ผลสืบเนื่องจากสงครามการค้าและเรื่องปัญหาความมั่นคงของสหรัฐ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐนำโดยหน่วยงานด้านข่าวกรองออกมาเตือนเรื่องการใช้อุปกรณ์ของ Huawei ในองค์กรภาครัฐและเอกชนในสหรัฐที่อาจกลายเป็นตัวดักข้อมูลและส่งกลับไปที่จีนซึ่งข้อมูลอาจถูกส่งไปยังกองทัพประชาชนจีน (PLA)
โดยประเด็นนี้ Huawei ตอบโต้ว่าเป็นคำกล่าวอ้างที่ไม่มีมูล และ ส่งผลกระทบต่อเรื่องอุปกรณ์ในเครือข่ายมือถือในสหรัฐฯซึ่งราคาต่ำกว่าของบริษัทสหรัฐเองที่ต้องถูกนำออกจากตลาดสหรัฐไป
และอีกประเด็นหนึ่งที่น่าเป็นห่วงคือการถูกตรวจสอบเรื่องการขายอุปกรณ์โทรคมนาคมให้อิหร่าน ซึ่งเป็นการขัดคำสั่งการสั่งห้ามค้าขายกับประเทศอิหร่านโดยสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้บริษัทโดนปรับด้วยเงินจำนวนมหาศาลและถูกระงับการขายอุปกรณ์โทรคมนาคม มือถือสมาร์ทโฟนและอื่นๆ ในตลาดสหรัฐฯซึ่งถือว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่เช่นกัน
แต่ทั้งนี้แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากเรื่องการถูกแบนในสหรัฐฯแต่ด้วยขนาดตลาดของจีนมีขนาดใหญ่ยังมีอัตราการขยายตัวในเรื่องการใช้ Cloud Service รวมถึงการเข้าสู่ยุค 5G ที่ยังเป็นแนวโน้มที่ Huawei เกาะอยู่อย่างแนบแน่นทำให้อัตราการทำกำไรและสร้างรายได้ของ Huawei น่าจะมีอนาคตอยู่พอสมควร
Source: SCMP, Huawei Press
