08-08-2019

กกร.ชี้ดัชนีเศรษฐกิจไทยยังไร้แววฟื้น พร้อมเข้าพบผู้ว่าแบงค์ชาติเรื่องค่าเงิน

บทความโดย
ที่ประชุม กกร.

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า ได้ประเมินเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ชี้ว่า “เศรษฐกิจไทยทั้งการส่งออกและการใช้จ่ายภายในประเทศมีสัญญาณที่อ่อนแรงลงต่อเนื่อง” โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2562 เครื่องชี้ส่วนใหญ่มีทิศทางที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าไตรมาสแรกที่ขยายตัว 8%

สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจไทยยังเผชิญความท้าทายจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ เตรียมที่จะปรับขึ้นภาษีนำเข้าในอัตรา 10% ต่อสินค้าจีนวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ฯ ในวันที่ 1 กันยายนนี้ ส่วนจีนได้ปรับค่าเงินหยวนอ่อนค่าหลุดระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ฯ โดยเป็นระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบ 11 ปี

โดยสหรัฐฯ ก็ระบุว่าจีนเป็นประเทศที่บิดเบือนค่าเงิน (Currency Manipulator) ซึ่งน่าจะนำมาสู่มาตรการเพิ่มเติมจากฝั่งสหรัฐฯ และส่งผลให้สงครามการค้ามีความเสี่ยงที่อาจจะรุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่สหราชอาณาจักรอาจจะต้องออกจากสหภาพยุโรปโดยไร้ข้อตกลง (No Deal Brexit) ในวันที่ 31 ตุลาคม

จากปัจจัยจากภายนอกประเทศเป็นแรงกดดันเพิ่มต่อทิศทางเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงอยู่แล้ว และเมื่อประกอบกับความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่ทำให้เงินบาทยังมีแนวโน้มแกว่งผันผวนและอาจปรับแข็งค่าขึ้น ล้วนเป็นแรงกดดันที่ไม่เอื้อต่อภาพการฟื้นตัวของการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือของปี

ทางที่ประชุมกกร.ได้ประมาณ์การเศรษฐกิจไทยไว้ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยหรือ GDP ปีนี้ไว้ที่ 2.9-3.3% การส่งออก ขยายตัว -1 ถึง 1% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เพิ่มขึ้น 0.8-1.2%

ทั้งนี้ วันที่ 8 สิงหาคม 2562 สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มีนัดเข้าหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนและติดตามสถานการณ์เรื่องค่าเงินบาทตลอดจนมาตรการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือภาคส่งออก โดยจะเข้าพบกันคนละวาระในวันพรุ่งนี้