กสิกรไทยงบครึ่งปีแรก62 กำไร 19,973 ล้านบาท รับรายได้หดรับเศรษฐกิจชะลอตัว

ธนาคารกสิกรไทยประกาศผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก 2562 มีกำไรสุทธิจำนวน 19,973 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 2 ปี 2562 จำนวน 9,929 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานสำหรับครึ่งปีแรกปี 2562

โดยเทียบกับครึ่งปีแรกของปีก่อน ลดลงไปจำนวน 1,709 ล้านบาท หรือ 7.88% รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 2,960 ล้านบาท หรือ 6.16% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยรับของเงินให้สินเชื่อและเงินลงทุน

นั่นทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM)อยู่ที่ระดับ 3.30% ในส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 5,475 ล้านบาท หรือ 17.46% เป็นผลมาจากรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยและรายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดทุนลดลง และ การยกเลิกค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านช่องทางดิจิทัล

ทางด้านค่าใช้จ่าย แม้จะพยายามคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่ยังค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจำนวน 1,087 ล้านบาท หรือ 3.33%  มีผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 43.89%

มีการตั้งสำรองเกษียณอายุของพนักงานเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงผลประโยชน์ของพนักงานตามนโยบายการจ้างงานเฉพาะของธนาคารที่ไม่เกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน

ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 2 ปี 2562

โดยในไตรมาส 2/2562  ยังไม่ฟื้นตัวเทียบในไตรมาส 1/2562 ที่ขยายตัวร้อยละ  2.80 สาเหตุมาจากภาคส่งออกและการท่องเที่ยวยังเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าและเศรษฐกิจโลก รวมทั้งสงครามการค้าจีน-สหรัฐที่ยังยืดเยื้อแต่การบริโภคภายในประเทศยังเป็นตัวที่ประคองการเติบโตทางเศรษฐกิจเอาไว้ แต่ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือเรื่องสถานการณ์หนี้ครัวเรือนและการฟื้นตัวของรายได้ภาคครัวเรือน

ธนาคารกสิกรไทยงบไตรมาส 2/2562  มีกำไรสุทธิ จำนวน 9,929 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนจำนวน 115 ล้านบาท หรือ 1.15% โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน518 ล้านบาท หรือ 2.05% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยรับของเงินลงทุน ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.34%

โดยในไตรมาส 2/2562  ยังไม่ฟื้นตัวเทียบในไตรมาส 1/2562 ที่ขยายตัวร้อยละ  2.80 สาเหตุมาจากภาคส่งออกและการท่องเที่ยวยังเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าและเศรษฐกิจโลก รวมทั้งสงครามการค้าจีน-สหรัฐที่ยังยืดเยื้อแต่การบริโภคภายในประเทศยังเป็นตัวที่ประคองการเติบโตทางเศรษฐกิจเอาไว้ แต่ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือเรื่องสถานการณ์หนี้ครัวเรือนและการฟื้นตัวของรายได้ภาคครัวเรือน

ในไตรมาส 2 ธนาคารและบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมจำนวน 3,256,294  ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2561 จำนวน 101,203 ล้านบาท หรือ3.21% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุนสุทธิ

สำหรับ NPL หรือ สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (% NPL gross) ไตรมาส 2 อยู่ที่ระดับ 3.40 % ขณะที่สิ้นปี 2561 อยู่ที่ระดับ 3.34 %

อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) สิ้นสุดไตรมาส 2 อยู่ที่ระดับ 157.95% โดยสิ้นปี 2561 อยู่ที่ระดับ 160.60%

สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III สิ้นไตรมาส 2 อยู่ที่ 18.55% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 16.19%