13-12-2018

“ไนท์แฟรงค์”ปีที่ 20 เผยคอนโดปีนี้ยังล้น คอนโดหรูราคาชะลอตัวปี2019ยังไม่ใช่ปีของอสังหา

บทความโดย
นายแฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงก์ ชาร์เตอร์ ประเทศไทย

บริษัทไนท์แฟรงค์ บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ฉลอง 20 ปี ด้วยการประเมินตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยในปี 2019 โดยนายแฟรงค์ ข่าน กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายที่ปรึกษาด้านโครงการที่พักอาศัย บริษัท ไนท์แฟรงก์ ชาร์เตอร์ ประเทศไทย ได้กล่าวภายในงาน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยโดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานคร มีโครงการใหม่ออกมาถึง 65,000 ยูนิต

คอนโดเกรด A ในปี 2018 มีห้องจากซัพพลายเดิมอยู่ 83,190 ยูนิต และมีซัพพลายใหม่ เข้ามาใสนปี 2018 อยู่ที่ 24,663 ยูนิต ในขณะที่ คอนโดเกรด Prime มียอดสะสมอยู่ที่  15,871 ยูนิต มีซัยพลายใหม่อยู่ที่ 4,584 ยูนิต และคอนโดระดับ Super Prime มียอดสะสมในตลาดอยู่ที่ 6,469 ยูนิต มีซัพพลายใหม่อยู่ที่ 6,273 ยูนิต

ปรากฎการณ์หนึ่งในตลาดคอนโดของกรุงเทพฯที่เกิดขึ้นในปีนี้คือราคาที่เริ่มชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงปี 2010-2017 ที่ผ่านมาที่ราคามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปีนี้นับเป็นปีแรกที่ราคาเริ่มปรับตัวลง โดยราคาในเขตกรุงเทพเขตธุรกิจ เช่นสีลม สาธร สุขุมวิท หรือ CBD ราคาลงมาอยู่ที่เฉลี่ย 238,103 บาทต่อตารางเมตร ลดลง -4.1%  โซนกรุงเทพชั้นใน ราคาอยู่ที่ 115,753 บาท/ตารางเมตรลดลง -11.9%  และโซนกรุงเทพรอบนอกอาทิแถบบางซื่อ บางนา  85,933 บาท/ตารางเมตร เพิ่มขึ้น 7.6%

คอนโดเกรด A ในกลุ่มห้องชุดไพรม์และซุปเปอร์ไพรม์ในช่วง 9 เดือนแรกของปี มีอัตราการดูดซับจากยูนิตที่ขายออกมาผ่านความต้องการของตลาดอยู่ที่ 76.7% โดยยอดรวมของซัพพลายห้องชุดเกรด A สะสมอยู่ที่ 99,785 ยูนิต มีความต้องการในตลาดอยู่ราว 76,525 ยูนิต

แบ่งออกเป็นห้องชุดไพรม์มีซัพพลายในตลาดรวมอยู่ 20,029 ยูนิต มีความต้องการในตลาดอยู่ที่ 15,424 ยูนิต ขณะที่ห้องชุดแบบซุปเปอร์ไพรม์ มีซัพพลายในตลาดรวม 8,853 ยูนิต มีความต้องการในตลาดราว 6,812 ยูนิต

ทางด้านราคาห้องชุดพบว่าห้องชุดซุปเปอร์ไพรม์เฉลี่ยอยู่ที่ 297,975 บาท/ตารางเมตร ลดลง 11% ห้องชุดแบบไพรม์เฉลี่ยอยู่ที่ 205,315 ยูนิต ลดลง 2% ขณะที่ห้องชุดเกรด A เฉลี่ยอยู่ที่ 135,464 บาท/ตารางเมตร ปรับเพิ่มขึ้นราว 2%

ลูกค้าจะเลือกซื้อห้องชุดมีความต้องการเรื่องคุณภาพของชีวิตและที่อยู่อาศัยมากขึ้นเมื่อเทียบกับราคาที่จ่าย ขณะที่โครงการเริ่มอิ่มตัว การลงทุนใหม่เริ่มลดลงส่วนหนึ่งมาจากผู้ซื้อคนไทยที่ลดลงทำให้ผู้ประกอบการหันมาสนใจลูกค้าต่างชาติมากขึ้นโดยมีเป้าหมายเป็นชาวจีน ชาวฮ่องกง ชาวสิงคโปร์ โดยคนจีนจะมาซื้อคอนโดในต่างประเทศเริ่มยากขึ้นเพราะมีการจำกัดวงเงินโอนเงินออกนอกประเทศเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์มากขึ้น ซึ่งจำกัดการนำเงินออกนอกประเทศไม่เกิดปีละ 50,000 เหรียญสหรัฐ ทำให้กำลังซื้อชาวจีนช่วงหลังลดลงไปมาก นอกจากนี้ในปี 2019 ยังมีสัญญาณชะลอตัวของตลาดคอนโดมิเนียมอย่างต่อเนื่องทั้งเรื่องราคาที่ปรับตัวลดลง การขึ้นโครงการใหม่ๆ