24-06-2019

“กระทิง-เรืองโรจน์” ประธานKBTG ชี้ Data คือกุญแจสำคัญของธุรกิจสมัยใหม่

บทความโดย
คุณเรืองโรจน์ (กระทิง) พูนผล ประธาน KBTG

จากงานAsean Business Summit ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก จัดขึ้นที่กรุงเทพฯเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากหัวข้อ The digital Deconomy ทางคุณเรืองโรจน์ (กระทิง) พูนผล ประธาน KBTG ในเครือธนาคารกสิกรไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมในประเด็นต่างๆ ซึ่งเราได้รวบรวมมาให้ ณ ที่นี้

Data is a key

คุณเรืองโรจน์ ได้ให้นิยามถึง Data ว่าเป็นสินทรัพย์สมัยใหม่ที่สำคัญกับทุกธุรกิจ ได้เล่าว่า “สินทรัพย์ในยุคเก่าเป็นพวกโรงงาน หรือที่ตั้งของร้านค้าต่างๆ  แต่ในอนาคตเป็นเรื่องของข้อมูล (Data) ทุกบริษัทต้องมี Strategy ในเรื่องของข้อมูล เพราะคนที่ควบคุมข้อมูลคือผู้ชนะ หลายบริษัทจึงต้องจ้าง Data scientist”

ขณะเดียวกันก็มีเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมากนั่นคือ ข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) ที่ต้องมีความสมดุลกันในการนำเอาข้อมูลผู้บริโภคไปใช้ อย่างกรณีของทางกสิกรไทยก็มีทีมลงมาดูเรื่องนี้เพื่อให้สอดคล้องกับที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy Act) ที่ต้องให้ได้สมดุลกัน

การทำ Digital Economy ให้เป็นรูปธรรม

ถ้าจะทำให้ Digital Economy เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมได้ นโยบายภาครัฐต้องชัดเจน

คุณเรืองโรจน์ ชี้ว่ามี 3 เรื่องที่ต้องทำไปพร้อมกันคือ สร้างนักรบดิจิทัล องค์กรใหญ่ต้อง Transform นั่นคือส่วนของบริษัทขนาดใหญ่ (Big Corporation)

นอกจากนี้คุณเรืองโรจน์เห็นว่าส่วนที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่ม SMEs ที่เป็นกระดูกสันหลังของส่วนนี้ และแน่นอนว่าต้องรวมไปถึง Gig Economy ที่เป็นกลุ่ม Freelance ต่างๆ ที่ต้องไปด้วยกัน

สรุปคือต้องมี 5 แกนสำคัญคือ ภาครัฐ นักรบดิจิทัล องค์กรขนาดใหญ่ SMEs และ Gig Economy ที่จะต้องผลักดันไปพร้อมกันถึงจะสำเร็จ

ความสำคัญของ Talent ในยุคนี้

ต้องยอมรับว่ายังมีความต้องการคนเก่ง (Talent) อีกมากตัวอย่างคือ KBTG ยังต้องการคนเก่งอีก 400 คน เข้ามาเสริมทัพเพราะต้องยอมรับว่าสถาบันการศึกษาป้อนให้ตลาดไม่ทัน แล้วทุกภาคธุรกิจต้องเปลี่ยนตัวเอง (Transform) ตัวเองกันหมด

คุณเรืองโรจน์ได้ให้ความหมายของคนที่มี Talent ว่า เรารับคนมา x แล้วสามารถสร้างรายได้หรือทำให้องค์กรโตได้ 10 เท่า ยิ่งเราจ้างคนมี Talent มากเท่าไหร่ ธุรกิจยิ่งโตมากขึ้น ขณะนี้ KBTG  มีคนเก่งที่มี Talent ประมาณ 1,200 คนแต่เราก็ยังต้องการเพิ่มอีก

ขณะที่การลงทุนด้านดิจิทัลของธนาคารกสิกรไทยมีการลงทุนปีละ 5,000 ล้านบาทต่อเนื่องในทุกปีเพราะส่วนหนึ่งมาจากวิสัยทัศน์ของคุณบัณฑูร ล่ำซำได้ให้ไว้ ซึ่งเห็นว่าเริ่มออกดอกออกผลขึ้นมาทั้งในส่วน kbtg ที่แยกตัวออกมา