Sea(Thailand) เจ้าของ Garena-Shopee-Airpay เปิดแผนขยายลูกค้าด้วยกลยุทธ์ 3Es
Sea (ประเทศไทย) ผู้นำด้านดิจิทัลเอนเตอร์เทนเมนท์ เจ้าของแพลตฟอร์มใหญ่ 3 ด้านได้แก่ เกมส์(การีนา) อีคอมเมิร์ซ (ช้อปปี้) และ บริการด้านการเงินแบบดิจิทัล (แอร์เพย์) ด้วยกลยุทธ์ ‘3Es’ มุ่งเน้น ‘Enlarge-Enable-Empower’ ให้กับลูกค้า
7 ปีจากบริษัทเกมส์ถึงตลาดอีคอมเมิร์ซและอีเพย์เมนต์
Sea (ประเทศไทย) เริ่มต้นธุรกิจในปี 2012 ด้วยธุรกิจเกมส์ที่เราคุ้นเคยในชื่อแรกของบริษัทนั่นคือ Garena จากผู้บริหารเพียงแค่ 4 คนก่อร่างสร้างบริษัทเกมส์ขึ้นในสิงคโปร์ที่ต้องการสร้างตลาดเกมส์สำหรับคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเกมส์ชั้นนำที่ติดตลาดกันไปแล้วอาทิ ROV, Free Fire, Speed Drifters, และ FIFA Online 4 เป็นต้น
เมื่อธุรกิจเกมส์มั่นคงแล้วได้ขยายธุรกิจเข้าสู่การบริการการเงินออนไลน์นั่นคือ Airpay ในปี 2014 ต่อมาได้เห็นการเติบโตและเทรนด์สำคัญของอีคอมเมิร์ซทำให้ขยายเข้าสู่ตลาดนี้โดยการเปิดตัว Shopee ในปี 2015 จากการดำเนินธุรกิจเติบโตอย่างมากดำเนินธุรกิจใน 7 ประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน
ด้วยการดำเนินธุรกิจของSea (Group) ที่เติบโตอย่างมากได้เป็นยูนิคอร์น (Unicorn) รายแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้เสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ภายใต้สัญลักษณ์ ‘SE’ เมื่อปลายปี 2017
Sea (Group) มีผลประกอบการที่เติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาสที่ 1 ของปี 2019 Sea (Group) มีอัตราการเติบโตถึง 194% เทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2018 สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของเศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่น
Business Model ของ Sea(Thailand) ในปัจจุบัน ประกอบด้วย
- Garena ธุรกิจเกมส์ มียอดผู้ลงทะเบียน (Registered User) จำนวน 35 ล้านบัญชีบนเกมประเภทพีซี (PC) และ 40 ล้านบัญชีบนเกมมือถือ (Mobile) ด้วยคนไทยที่ชอบเล่นเกมส์จนตอนนี้ไทยถือเป็นฮับของE-Sport ของภูมิภาคมีทัวร์นาเมนต์ใหญ่ทำให้เกิด Sport Tourism ขึ้นในไทย การถ่ายทอดสดในงาน Garena World championship ในปี 2012 อยู่ที่ 7.5แสนวิว เติบโตมาเป็น 276 ล้านวิวในปี 2018
- Airpay ดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 7.5 ล้าน โดยมีจุดให้บริการมากกว่า 2 แสนจุด กระเป๋าเงินออนไลน์ที่สะดวกและปลอดภัย สำหรับชำระบิล เติมเงินมือถือ ท๊อปอัพเกม ไปจนถึงบริการด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์อย่างครบครัน และยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตในธุรกิจของการีนาและช้อปปี้ด้วยการบริหารจัดการระบบชำระเงินและค่าสินค้า
- Shopee ในไทยดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 30 ล้านดาวน์โหลด และกลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซของประเทศไทย
นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) กล่าวว่า “นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ผลิตภัณฑ์และบริการบนอินเทอร์เนตแพลตฟอร์มจาก Sea ไม่ว่าจะเป็น การีนา ช้อปปี้ และแอร์เพย์ ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างดีมาโดยตลอด Sea มุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการบนอินเทอร์เนตแพลตฟอร์ม ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านบริการที่ครอบคลุมทั้งดิจิทัลเอนเตอร์เทนเมนท์ อีคอมเมิร์ซ และ บริการด้านการเงินแบบดิจิทัล เพื่อมอบประสบการณ์ของไลฟ์สไตล์ที่เป็นเลิศอย่างครบวงจรให้กับผู้บริโภค”
กลยุทธ์ 3Es มุ่ง Enlarge-Enable-Empower
‘Enlarge’ ขยายสัดส่วนของฐานผู้ใช้งาน จากเดิมที่เกมส์จะอยู่ใน Pc เป็นหลักแต่มีข้อจำกัดในเรื่องการเล่นที่ไม่สะดวก ก็ขยายไปอยุ่บนมือถือมากขึ้น ทำให้สามารถเ้ล่นเกมส์ที่ไหนก็ได้ พร้อมกับการทำเกมส์ที่ตอบโจทย์นักเล่นเกมส์ให้มากขึ้น อย่าง Arena of Valor (RoV) เกมบนมือถือยอดนิยม มียอดลงทะเบียนในประเทศไทยกว่า 31 ล้าน เทียบเท่าเป็น 1 ใน 3 ของประชากรไทย
เปลี่ยนแปลงจากGame Publisher สู่การเป็น Game Developer ซึ่งเกม Free Fire คือเกมมือถือเกมแรกที่การีนาพัฒนาเองอย่างเต็มรูปแบบ ที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและสามารถขยายฐานผู้เล่นเกมไปทั่วโลกโดยเฉพาะประเทศในแถบละตินอเมริกา โดยเฉพาะประเทศบราซิลที่นิยมเกม Free Fire เป็นอย่างมากจนตอนนี้เกม Free Fire มียอดดาวน์โหลดสูงถึง 450 ล้านครั้ง ทำให้ขึ้นแท่นสู่การเป็นเกมออนไลน์ Free to Play ที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก และยังมียอดผู้เล่นพร้อมกันสูงสุดถึง 50 ล้าน ผู้เล่นต่อวันอีกด้วย
‘Enable’ ทำให้เกิดการใช้งานจากผู้บริโภคในวงกว้าง ด้วยความเข้าใจตลาดมากขึ้นและเข้าใจความต้องการของผู้ใช้ ผู้เล่นมากขึ้นซึ่งการใช้งานในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน โดยมีการปรับเปลี่ยนเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์เหล่านี้อาทิ
เกม Free Fire ที่ทำให้เกมกลายเป็น ‘Inclusive entertainment’ โดยเกม ‘Free Fire’ ใช้เมมโมรี่น้อยลง โดยไม่ลดคุณภาพของเกมเพื่อสามารถดาวน์โหลดและเล่นได้ ตอบโจทย์กับความต้องการของเกมเมอร์ใน emerging marke
Shopee มีแอพสำหรับแต่ละประเทศที่แตกต่างเพื่อตอบสนองความต้องการพฤติกรรมการซื้อของที่แตกต่างกัน มีการนำเอากิจกรรม “Gamification” ต่างๆ เพื่อนำไปสู่การรับรู้และใช้งานในวงกว้าง เช่น Shopee LIVE Shopee Quiz และ Shopee Shake Shake ชวนผู้ใช้มาเล่นเกมส่งผลให้ระยะเวลาการใช้งานที่ผู้บริโภคใช้บนช้อปปี้ยาวนานขึ้น
โจทย์ที่สำคัญของ Enable คือการเพิ่มความรู้ของคนขายให้เขามีทักษะในการใช้แพลตฟอร์มเพื่อช่วยในการขายสินค้าละเพิ่มตัวเลือกให้ผู้บริโภคได้มากขึ้น
‘Empower’ สร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและสังคม เพื่อทำให้ระบบนิเวศของแต่ละอุตสาหกรรมแข็งแรงยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คอมมูนิตี้ของผู้ประกอบการรายย่อยที่จะได้รับความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มผู้ค้าขายจาก Shopee University คอมมูนิตี้ภาคการศึกษาผ่านการสนับสนุนและพัฒนาความสามารถของคนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ Sea ยังได้เปิดตัวยุทธศาสตร์ ‘10 in 10 Initiative’ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งพัฒนาศักยภาพ ‘Digital Talent’ ในตลาดแรงงานทุกระดับ โดย Sea พร้อมส่งมอบ ‘Digital Talent’ กว่า 10 ล้านคน ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ภายในระยะเวลา 10 ปี
นอกจากนี้ Shopee ได้เริ่มการบริการ Shopee Logistics ขึ้นในระดับทดลองให้บริการแก่ลูกค้าของ Shopee บ้างแล้วแต่ยังอยู่ในวงจำกัดเนื่องจากข้อจำกัดของผู้ให้บริการขนส่งสินค้าที่ไม่ตอบโจทย์ผู้ซื้อผู้ขายของทางShopee เอง จึงริเริ่มให้บริการขนส่งของตนเองขึ้น แต่ยังต้องทดสอบอีกระยะหนึ่งจึงจะสามารถขยายการบริการออกไปให้ครอบคลุมมากกว่านี้
คงต้องจับตาดูว่าสมรภูมิที่ดุเดือดในตลาดอีคอมเมิร์ซและบริการการเงินออนไลน์ และตลาดเกมส์ จะช่วยดันบริษัทมูลค่า 500,000 ล้านบาทนี้ให้ไปทะลุเป็นบริษัท 1 ล้านล้านบาทได้หรือไม่ และจะสามารถพลิกให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซกลับมามีกำไรได้หรือไม่