22-04-2019

สิงคโปร์คุยยักษ์ใหญ่ลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มหลังไดสันประเดิมตั้งโรงงาน

บทความโดย
  • รัฐบาลสิงคโปร์กำลังคุยกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่เพิ่มขึ้นหลัง บริษัทไดสันประกาศตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในสิงคโปร์เมื่อปี 2018
  • เงื่อนไขและต้นทุนการการครอบครองรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลก และรัฐบาลสิงคโปร์ไม่สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าอาจเป็นปัจจัยในการตั้งฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของรายใหญ่อาทิ เทสล่า เป็นต้น

tesla
Tesla

รัฐบาลสิงคโปร์เร่งเจรจาชักชวนผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้เข้ามาตั้งฐานผลิตในประเทศสิงคโปร์หลังจากไดสัน ผู้นำด้านเทคโนโลยีจากประเทศอังกฤษประกาศตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งแรกในสิงคโปร์เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา
ปัจจุบันประเทศสิงคโปร์กำลังขับเคลื่อนกลยุทธ์การเชื่อมต่อกับตลาดโลกผ่านการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับหลายประเทศ, การใช้ข้อได้เปรียบด้านกำลังแรงงานทักษะสูง และมาตรการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มข้น ซึ่งทั้งหมดนี้สำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์กล่าวกับบลูมเบิร์ก

“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะไม่เป็นเพียงรายเดียวที่เราดึงเข้ามาได้” นายชึง ไค ฟง กรรมการผู้จัดการของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งประเทศสิงคโปร์กล่าวให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก โดยอ้างถึงแผนการลงทุนของไดสัน “เรากำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาหรือปรึกษาหารือกับอีกสองสามราย แนวคิดทั้งหมดก็คือเราจะทำการสร้างคลัสเตอร์ของทั้งอุตสาหกรรม”

การดึงผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นๆเข้ามาจะช่วยสร้างความได้เปรียบด้านขนาดการผลิตของอุตสาหกรรมนี้ในสิงคโปร์ ซึ่งจะช่วยเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับของประเทศด้วย การใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติขั้นสูงรวมถึงระบบการบริหารห่วงโซ่อุปทานและการมีระบบเชื่อมต่อกับตลาดโลกอย่างทั่วถึง ทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยที่ช่วยคลายความกังวลในเรื่องของต้นทุนแรงงานที่สูงของประเทศสิงคโปร์เอง

“เรื่องนี้เป็นเกมด้านทุนมากกว่าเกมด้านแรงงาน” ชึงกล่าวกับบลูมเบิร์กที่นครซานฟรานซิสโก โดยทางคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งประเทศสิงคโปร์เองได้มาจัดการประชุมด้านเทคโนโลยี 2 งานที่นี่ด้วยและหนึ่งในนั้นคืองานประชุมบริดจ์ฟอรั่ม “จุดนี้เป็นข้อได้เปรียบของเรา”

ไดสันซึ่งทำธุรกิจด้านเครื่องเป่าผมและเครื่องดูดฝุ่นได้ประกาศเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2018 ว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้แล้วเสร็จภายในปี 2020 โดยมีเป้าหมายที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกภายในปี 2021 ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนมูลค่ากว่า 2,000 ล้านปอนด์เพื่อเข้าสู่วงการยานยนต์อย่างเต็มตัว

สำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์

ช่วงต้นปี 2019 นายเจมส์ ไดสัน มหาเศรษฐีพันล้านผู้เป็นยอดนักประดิษฐ์ได้ประกาศเดินหน้าธุรกิจยานยนต์เต็มตัวด้วยการย้ายสำนักงานใหญ่ของบริษัทจากประเทศสหราชอาณาจักรมาตั้งที่ประเทศสิงคโปร์แทน โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญที่มากขึ้นของตลาดเอเชีย

ปัจจุบันสิงคโปร์ยังไม่มีโรงงานผลิตรถยนต์แม้แต่แห่งเดียว ขณะเดียวกันประเทศสิงคโปร์เองก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีต้นทุนการเป็นเจ้าของรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลก และไม่ใช่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทุกรายจะชื่นชอบสิงคโปร์
อิลอน มัสก์ได้ทวีตเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า สิงคโปร์เองไม่ต้อนรับบริษัทเทสล่า โดยเสริมอีกว่า รัฐบาลสิงคโปร์นั้นไม่ได้สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งเทสล่ายังตอบคำถามเพิ่มเติมว่าทำไมบริษัทไม่มีฐานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มัสก์ได้กล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วว่า เทสล่าพยายามที่จะนำรถของตัวเองไปสู่ประเทศสิงคโปร์แต่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะรัฐบาลสิงคโปร์ไม่สนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า

สิงคโปร์เองยังต้องเผชิญแรงตีกลับจากเอกชนหลายรายเนื่องจากการบังคับใช้ภาษีคาร์บอนในประเทศ ทั้งนี้ทางรัฐบาลกล่าวว่า ภาษีคาร์บอนนั้นมีขึ้นเพื่อทำตามพันธะในข้อตกลงปารีส ขณะเดียวกันภาษีคาร์บอนเองก็ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์ของสิงคโปร์สูงขึ้นด้วยเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในแถบเอเชีย

“คาร์บอนจะเป็นข้อจำกัดของเรามากขึ้น” ชึงกล่าว “แต่ยังไงเราก็ต้องทำ มันเป็นการที่ต้องแลกกันระหว่าง การรักษาพันธะของเรา ความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อมของเรากับการเติบโตทางเศรษฐกิจ”

ที่มา Bloomberg