วีเอ็มแวร์จับมือไอเน็ตผลักดัน “ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น”ผ่านการให้บริการ Hybrid Cloudตัวใหม่ VMware HCX
ธุรกิจยุคใหม่หลายรายกำลังเข้าสู่ “ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น” ตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่จนถึงธุรกิจขนาดกลางและย่อม บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเน็ต (INET) และ บริษัท วีเอ็มแวร์ ได้จับมือร่วมกันเพื่อเสนอบริการ คลาวด์ HCX ให้แก่องค์ธุรกิจที่ต้องการเข้าสู่ดิจิทัล โดยมีเป้าหมายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการบริหารข้อมูลบนดาต้าเซ็นเตอร์แบบดั้งเดิม ไปสู่การบริหารจัดการมัลติคลาวด์ ที่รองรับดาต้าขนาดใหญ่ ความปลอดภัยสูง และความเร็วในการให้บริการ
ที่ผ่านมาธุรกิจไทยกำลังเข้าสู่ช่วงดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยคาดว่าจะใช้จ่ายเงินสำหรับเรื่องการเข้าสู่ดิจิทัลเป็นเงินกว่า 4.7 แสนล้านบาทภายในปี 2021 นี้ และด้วยแรงผลักดันของการเป็นศูนย์กลางในด้านดิจิทัล ด้านการแพทย์ และด้านหุ่นยนต์ ไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 10 ของเอเชียแปซิฟิกในการประยุกต์ใช้หุ่นยนต์ในภาคการผลิต สัดส่วนหุ่นยนต์กับแรงงานมนุษย์ของไทยอยู่ที่ 45 ตัว/แรงงานมนุษย์ 10,000 คน
เมื่อไอเน็ต (INET) จับมือร่วมกับวีเอ็มแวร์ (VMware) มาสนับสนุนการใช้งานมัลติคลาวด์ และ ไฮบริดคลาวด์ เพราะทุกวันนี้แทบทุกองค์กรใช้งานบริการผ่านคลาวด์หลายรูปแบบอยู่แล้ว เพื่อให้เกิดการประสานงานทางด้านข้อมูลที่ง่าย สะดวก รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้นผ่าน VMware HCX
VMware HCX ช่วยให้องค์กรดำเนินการโยกย้ายระบบขนาดใหญ่จากดาต้าเซ็นเตอร์แบบดั้งเดิมที่ติดตั้งภายในองค์กรไปยังสถาปัตยกรรมแบบใหม่ที่ทันสมัยได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นและไม่มีสะดุด ด้วยบริการคลาวด์ HCX เวิร์กโหลดต่างๆ จะถูกโยกย้ายไปมาระหว่างระบบคลาวด์ โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนที่ต้นทาง การเคลื่อนย้ายของแอปพลิเคชั่นก็เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีการรักษาความปลอดภัยด้วยระบบเครือข่ายแบบไฮบริดที่ก้าวล้ำ การรีพลิเคตข้อมูล และความสามารถในการกู้คืนระบบในกรณีที่เกิดปัญหา ทั้งยังสามารถทำการโยกย้ายระบบขณะใช้งานอยู่โดยที่ระบบไม่หยุดทำงาน ช่วยให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจตามปกติได้อย่างต่อเนื่อง
มร. ซานเจย์ เค เดซมุขฮ์ รองประธานและกรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี (SEAK) บริษัทวีเอ็มแวร์ กล่าวว่า “นี้ เราได้ร่วมมือกับ ไอเน็ต ภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะเร่งขับเคลื่อนองค์กรต่างๆ ให้สามารถเข้าถึง VMware Cloud Foundation โซลูชั่นสำหรับระบบไฮบริดคลาวด์ที่รวมความสามารถของโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่สำคัญ ตั้งแต่ ระบบประมวลผล ระบบจัดเก็บข้อมูล ระบบเชื่อมต่อเครือข่าย และระบบการจัดการคลาวด์ครบวงจร สามารถย้ายแอปพลิเคชั่นและดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งหมดไปยังคลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมความสามารถในการกู้คืนระบบกรณีที่เกิดปัญหาและอัพเกรดความสามารถใหม่ๆ อยู่เสมอโดยไม่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ”
นางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ Cloud สามารถมีส่วนช่วยให้การบริหารธุรกิจได้ดีขึ้น โดยเราเริ่มพัฒนาตั้งแต่เรื่องดาต้าเซ็นเตอร์มาตั้งแต่ 7 ปีก่อน เพื่อให้ไอเน็ตพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าที่ต้องการใช้Infrastructure ด้านดาต้าเพื่อสามารถตอบโจทย์เรื่องความสามารถทางการแข่งขันได้ ”
“เรามีดาต้าเซ็นเตอร์ 3 แห่งเชื่อมกับ Cloud ลูกค้ากับของเราเพื่อรับประกันความมั่นคงและปลอดภัยของข้อมูล โดยก้าวต่อไปของไอเน็ตคือจาก Infrastructure as a service ไปเป็น Platform as a service โดยVMware HCX จะเข้ามาช่วยให้ Private cloud ของลูกค้า สามารถเชื่อมกับ Public Cloud และสามารถเชื่อมกับผู้ให้บริการCloud ต่างประเทศได้อย่างสะดวกมากขึ้นปลอดภัยมากขึ้น บริหารจัดการง่ายขึ้น เวลานี้เมื่อเทียบราคากับการให้บริการของCloud ในต่างประเทศแทบไม่มีความแตกต่างด้านราคาแต่อย่างใด เรามีบริหารเปรียบเทียบราคาทำข้อมูลการลงทุน Cloud ในประเทศเทียบกับ cloud ของต่างประเทศให้เห็นว่าเป็นอย่างไร เพื่อสร้างทางเลือกให้แก่ลูกค้า”
นายเอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยของวีเอ็มแวร์ กล่าวว่า “VMware HCX นับเป็นนวัตกรรมที่เรียกได้ว่าเป็น Game Changer ในการให้บริการคลาวด์รูปแบบใหม่สำหรับองค์กรที่ต้องการปรับใช้สถาปัตยกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทันสมัยโดยรองรับการเคลื่อนย้ายเวิร์กโหลดได้แบบไม่สะดุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ไอเน็ตเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ระดับพรีเมียร์ด้วยเทคโนโลยีของวีเอ็มแวร์ (VMware Cloud Verified Partners) นั่นคือ คือ พันธมิตรผู้ให้บริการคลาวด์ของวีเอ็มแวร์ เป็นพาร์ทเนอร์ที่มีการกำหนดกลยุทธ์เพื่อรองรับการให้บริการ VMware SDDC ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงมีการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริการ”
ปัจจุบันวีเอ็มแวร์มีผู้ให้บริการคลาวด์ที่ผ่านการรับรองจาก VMware Cloud Verified 35 ราย
