22-06-2019

“อัคริณ” พร้อมบุกฮอยอันและบาหลี รับการเติบโตของการท่องเที่ยวในภูมิภาค

บทความโดย
คุณอัญชลิกา กิจคณากร ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งอัคริณโฮเทลกรุ้ป

คุณอัญชลิกา กิจคณากร ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งอัคริณโฮเทลกรุ้ป ผู้บริหารและก่อตั้งอัคริณโฮเทลกรุ้ป เจ้าของแบรนด์โรงแรมและรีสอร์ทห้าดาว อาทิ อลีนตา (Aleenta) อคีรา (Akyra) ซึ่งมีทั้งสิ้นในประเทศไทยอยู่ 6 แห่งและเตรียมเปิดให้บริการใน 2 ประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวแห่งใหม่นั่นคือ บาหลี และ ฮอยอัน 

แบรนด์โรงแรมไทยที่กล้าท้าชนกับเชนโรงแรมระดับโลก มาฟังกันว่าอัคริณ​ โฮเทล กรุ้ป พร้อมท้าชนอย่างไรบ้าง

  • ทำไม “อัคริณโฮเทลกรุ้ป” ถึงเริ่มขยายไปต่างประเทศ

ที่เราขยายไปฮอยอันและบาหลี จุดเริ่มมาจากที่เจ้าของโรงแรมได้มาพักโรงแรมในเครือเราแล้วเขาชอบเลยติดต่อมาเองอยากให้เราเข้าไปบริหาร โดยฮอยอันเป็นเมืองที่พิเศษมากเพราะเป็นเมืองมรดกโลก และติดกับทะเล โรงแรมที่เราบริหารอยู่ระหว่างเมืองมรดกโลกกับทะเล โดยตั้งอยู่ในโค้งของปากแม่น้ำทูโบน (Thu Bon River) เป็นวิวที่พิเศษมากสำหรับคนที่มาพักในโรงแรมนี้

อคีรา ฮอยอัน (akyra HOI AN)

ที่ฮอยอันเราใช้ชื่อว่า “อคีรา ฮอยอัน” (akyra HOI AN) ใช้แบรนด์อคีรา สามารถเข้าถึงได้ทั้งทางรถยนต์และทางเรือ ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 110 ห้อง และห้องพักแบบพูลวิลล่ารวมกันราว 140 ห้อง พร้อมกับทำร้านอาหารเพื่อให้บริการอาหารเวียดนามริมแม่น้ำ รองรับลูกค้าที่เข้าพักและเป็นแหล่งกินดื่มของนักท่องเที่ยวละแวกนั้นอีกด้วย

สำหรับที่บาหลีเราใช้แบรนด์อลีนตา ในชื่อ“อลีนตา รีทรีท บาหลี” (Aleenta Retreat Bali) เป็นโรงแรมคอนเซปต์เป็นหมู่บ้านสปา โดยบาหลีจะเน้นเรื่องสุขภาพและการพักผ่อนที่ผ่อนคลายโดยได้ยก “อยุรา เวสเนส สปาเซ็นเตอร์” มาไว้ที่นี้ เพื่อให้เป็นแบรนด์รีสอร์ทเพื่อการบำบัดโดยเฉพาะ แล้วยังมีกิจกรรมทั้งกลางแจ้งและในร่มสำหรับคนรักสุขภาพ อาทิ พื้นที่โยคะกลางแจ้งที่สามารถมองเห็นวิวได้ถึง 180 องศา ศูนย์ออกกำลังกายแบบครบวงจร และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่

  • อะไรเป็นจุดขายของทั้งอคีราและอลีนตา

ทั้งอคีราและอลีนตาเป็นรีสอร์ทและโรงแรมสไตล์บูติคระดับห้าดาวที่เน้นเรื่อง Life Style และ Brand ที่ชัดเจน โดยเฉพาะการสร้างประสบการณ์ที่ผู้เข้าพักจะได้พบ ตั้งแต่อาหารที่เสริร์ฟในโรงแรมที่แม้แต่อาหารธรรมดาก็ทำจากวัตถุดิบเพื่อสุขภาพ

เราเน้นเรื่องสุขภาพ การกินการอยู่ให้กับแขกที่มาพักในโรงแรมให้รู้สึกถึงสิ่งที่ดีๆที่เรามอบให้ตอลดเวลาที่เข้าพัก ในแต่ละโรงแรมเองก็จะมีจุดเด่นของตัวเองอาทิ

อลีนตา หัวหิน-ปราณบุรี” (Aleenta Hua Hin-Pranburi) เราทำ สวนสมุนไพรภายในโรงแรม มีเล้าไก่ มีกิจกรรม Bicycle trail

อลีนตา ภูเก็ต-พังงา” (Aleenta Phuket-Phang Nga) เรามีเรื่องการทำ Health Retreat มี Booth camp เรามีโปรแกรมสปาเพื่อการผ่อนคลาย

นอกจากนี้จุดเด่นของอคีราและอลีนตา ยังเน้นในเรื่องสิ่งแวดล้อม การอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน เราเป็นโรงแรมแรกที่ริเริ่มในการไม่ใช้ พลาสติกครั้งเดียวแล้วทิ้ง (Single use plastic) ในทุกโรงแรมในเครือ

คุณอัญชลิกา กิจคณากร เล่าว่า “เราเริ่มจากการทำผลิตภัณฑ์ที่ดี เราสร้างโรงแรมที่ดีตั้งแต่ต้น”

Akyra Hoi An
  • ต้นทุนการเป็นกรีนแพงไหม

ต้นทุนไม่สูงแล้วเมื่อดำเนินไปเรื่อยๆ ในอนาคตช่วยเรื่องการลดต้นทุนได้ คุณอัญชลิกา กิจคณากรกล่าวพร้อมทั้งยังยกโรงแรมล่าสุดในเครือคือ โรงแรม อคีรา ทัส สุขุมวิท ซึ่งอยู่ที่สุมขุมวิท 20 ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่และเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เป็นโรงแรมที่เป็น โรงแรมปลอดพลาสติกใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งแห่งแรก

ต้องบอกว่าโครงการลดต้นทุนพลังงาน ทางอัคริณสามารถทำให้เงินที่ลงทุนเรื่องพลังงานคืนทุนได้ภายใน 5 ปี

  • ตลาดนอกประเทศอื่นที่อยากไป

นอกจากที่ฮอยอัน ประเทศเวียดนาม และที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซียแล้ว  ยังมองตลาดของทั้งสองแห่งนี้อยู่ว่ามีศักยภาพยังเติบโตได้อีก ยังคาดว่าถ้ามีโอกาสอยากลงทุนโรงแรมเพิ่มในสองประเทศนี้

เพราะบาหลีจากออสเตรเลียบินมาแค่ 4 ชั่วโมง โดยโรงแรมอลีนตา รีทรีท บาหลี อยู่บนเขามีกิจกรรมรองรับไว้ เหมาะกับการพักผ่อนโดยเฉพาะชาวออสเตรเลีย

ส่วนประเทศอื่นที่มองไว้คือ ประเทศเมียนมาร์ ที่ยังบริสุทธิ์อยู่

  • ตลาดท่องเที่ยวกับเทคโนโลยีและโอกาสใหม่ๆ

ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีทำให้ระดับการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น เทคโนดลยียังทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปมาก ท่องเที่ยวมากขึ้นจากความสะดวกที่มากขึ้น ชนชั้นกลางในเอเชียที่เพิ่มมากขึ้น คนเอเชียเที่ยวมากขึ้นและยังเที่ยวต่อเนื่อง แต่นักท่องเที่ยวก้มีตลาดเฉพาะ (Niche)มากขึ้น

อินเทอร์เน็ตทำให้คนหาข้อมูลมากขึ้น รู้ข้อมูลมากขึ้น คนที่จะท่องเที่ยวมีความมั่นใจมากขึ้นในการจอง จุดสำคัญของธุรกิจดรงแรมในตอนนี้คือเรื่องช่องทางการขาย (Distribution) ที่สามารถเจ้าะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของเรา

“อัคริณ”จึงต้องสร้างแบรนด์ให้คนมั่นใจ ช่องทางจัดจำหน่ายแข่งกับคนอื่นได้ โดยเฉพาะแบรนด์เล็กๆให้สามารถแข่งขันกับแบรนด์อินเตอร์ได้ โดยเราใช้มาตรฐานของแบรนด์อินเตอร์

ต้องยอมรับว่ายุคนี้เป็นยุคที่ชนชั้นกลางออกท่องเที่ยว นอกจากนักท่องเที่ยวเอเชียแล้วเรายังเพิ่มเติมไปที่นักท่องเที่ยวเพิ่มจากกลุ่มออสเตรเลีย, สหรัฐฯ, ยุโรปตะวันออก ที่มีกำลังซื้อและชอบการพักผ่อนมากขึ้น